En | Th

นโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี

บริษัทได้วางแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน (Good Corporate Governance) ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน นำไปสู่ความเจริญเติบโตและเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีประกอบด้วยหลักการและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการ โดยแบ่งเป็น 5 หมวด ได้แก่

  1. สิทธิของผู้ถือหุ้น
  2. การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน
  3. บทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย
  4. การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส
  5. ความรับผิดชอบของกรรมการ

บริษัทฯ ตระหนักถึงหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี จึงได้กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้องไว้อย่างชัดเจนและปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด ดังนี้

1. สิทธิของผู้ถือหุ้น

บริษัทฯ ส่งเสริมให้ผู้ถือหุ้นได้ใช้สิทธิขั้นพื้นฐานทางกฎหมาย ได้แก่ สิทธิในการเข้าร่วมประชุม และออกเสียงลงคะแนนในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น การเลือกตั้งหรือถอดถอนกรรมการ การพิจารณาค่าตอบแทนกรรมการ การพิจารณาส่วนแบ่งในผลกำไร (เงินปันผล) การได้รับข้อมูลข่าวสาร อย่างเพียงพอ เป็นต้น นอกจากสิทธิขั้นพื้นฐานดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ ได้ดูแลเอาใจใส่สิทธิของผู้ถือหุ้นมากกว่าที่กฎหมายกำหนด เช่น การให้ข้อมูลที่สำคัญผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ การจัดให้นักวิเคราะห์ และนักลงทุนเยี่ยมชมกิจการ เป็นต้น

บริษัทฯ กำหนดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเป็นประจำทุกปีภายใน 4 เดือนนับแต่วันสิ้นรอบปีบัญชีของบริษัทฯ และหากมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องพิจารณาวาระพิเศษที่อาจเป็นเรื่องที่กระทบหรือเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัทฯ จะเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นได้เป็นกรณีไป โดยในปี 2556 บริษัทฯ ได้จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 5 เมษายน 2556 ณ สำนักงานบริษัทฯ ชั้น 27 อาคารเสริมมิตรทาวเวอร์ โดยในปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้ที่เข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรวม 92 คน แบ่งเป็น ผู้ถือหุ้นที่มาด้วยตนเองและผ่านการมอบฉันทะจำนวน 92 คนและ 599 คน ตามลำดับ โดยมีจำนวนหุ้นที่ถือรวมกันได้ จำนวน 394,814,765 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 82.25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นทุกครั้ง บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามแนวทางของโครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (AGM Checklist) ซึ่งจัดทำ ขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ดังนี้

การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นก่อนวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น

  • เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอระเบียบวาระการประชุม และเสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อเข้ารับการพิจารณาเลือกตั้งเป็นกรรมการของบริษัทฯ โดยชี้แจงรายละเอียดและวิธีการผ่านทางเว็บไซต์ ของบริษัทฯ อย่างน้อย 3 เดือนก่อนวันสิ้นสุดรอบบัญชี พร้อมทั้งส่งหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะเสนอระเบียบวาระการประชุมต้องเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งหรือหลายคน ซึ่งถือหุ้นและมีสิทธิออกเสียงนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทฯ
  • เผยแพร่ข้อมูลหนังสือเชิญประชุม ระเบียบวาระการประชุมผู้ถือหุ้นพร้อมความเห็นของคณะกรรมการ หนังสือมอบฉันทะทุกแบบประกอบด้วยแบบ ก แบบ ข และ แบบ ค (สำหรับผู้ถือหุ้นต่างประเทศที่แต่งตั้งคัสโตเดียนในประเทศไทยเท่านั้น) ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งข้อมูลประกอบการพิจารณาระเบียบวาระ ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้นล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนที่จะจัดส่งเอกสารเชิญประชุมให้แก่ผู้ถือหุ้น
  • จัดทำหนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี โดยระบุสถานที่ วัน เวลา ประชุมให้ชัดเจน พร้อมทั้งรายละเอียดระเบียบวาระการประชุม ข้อมูลสำคัญและจำเป็นประกอบการพิจารณาความเห็นคณะกรรมการ รายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา รายงานประจำปี หนังสือมอบฉันทะซึ่งระบุวิธีการมอบฉันทะอย่างชัดเจนและเอกสารประกอบการประชุมอื่นๆ โดยจัดส่งให้ผู้ถือหุ้นล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับข้อมูลข่าวสารเพื่อการตัดสินใจในการลงมติอย่างเพียงพอ ถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส และมีโอกาสศึกษาวาระการประชุมล่วงหน้า พร้อมทั้งประกาศลงในหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับภาษาไทยติดต่อกันต่อเนื่อง 3 วัน ก่อนวันประชุมอย่างน้อย 3 วัน เพื่อเป็นการบอกกล่าวการเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเป็นการล่วงหน้าสำหรับให้ผู้ถือหุ้นเตรียมตัวมาร่วมประชุม

การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นในวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น

  • อำนวยความสะดวกให้ผู้ถือหุ้นในวันประชุมอย่างเท่าเทียมกัน โดยจัดเจ้าหน้าที่ต้อนรับและให้ข้อมูลในการตรวจเอกสารและลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมประชุมอย่างเพียงพอ โดยบริษัทฯจะเปิดให้ผู้ถือหุ้นสามารถรับการลงทะเบียนก่อนเวลาประชุม2 ชั่วโมง และแม้จะพ้นเวลาลงทะเบียนแล้ว ก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นที่ประสงค์จะร่วมประชุม สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมได้โดยไม่เสียสิทธิ
  • ได้จัดให้มีสถานที่จัดการประชุมที่สะดวกต่อการเดินทางมาเข้าร่วมการประชุม และมีขนาดเพียงพอรองรับจำนวนผู้ถือหุ้นอยู่ในกรุงเทพมหานคร
  • ได้นำระบบบาร์โค้ดมาใช้ในการลงทะเบียนและนับคะแนนเพื่อความถูกต้อง สะดวกและรวดเร็ว
  • บริษัทฯ ไม่กระทำการใดๆ ที่มีลักษณะเป็นการจำกัดสิทธิในการเข้าร่วมประชุมของผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นทุกคนย่อมมีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นตลอดระยะเวลาการประชุม
  • ก่อนเริ่มประชุมทุกครั้ง ประธานที่ประชุมจะเป็นผู้ชี้แจงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมทั้งหมด อาทิเช่น การเปิดประชุม และการออกเสียงลงคะแนน รวมทั้งวิธีการนับคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นที่จะต้องลงมติในแต่ละวาระตามข้อบังคับของบริษัทฯ
  • บริษัทฯ จะระบุการมีส่วนได้เสียของกรรมการไว้ในหนังสือเชิญประชุมฯ และในการประชุมผู้ถือหุ้น หากกรรมการท่านใดมีส่วนได้เสีย หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณาวาระใด ประธานที่ประชุมจะแจ้งให้ผู้เข้าร่วมประชุมทราบก่อนการพิจารณาวาระ โดยกรรมการท่านที่มีส่วนได้เสียนั้นจะไม่ร่วมประชุมในวาระนั้นๆ
  • สนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถใช้สิทธิในการดูแลรักษาผลประโยชน์ของตน โดยการซักถาม แสดงความเห็น ให้ข้อเสนอแนะและออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น รวมถึงการใช้สิทธิร่วมตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อบริษัทฯเช่น การแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการ การเสนอชื่อบุคคลเพื่อเป็นกรรมการอิสระ การอนุมัติผู้สอบบัญชี การจัดสรรเงินปันผล การลดทุนหรือเพิ่มทุน การกำหนดหรือการแก้ไขข้อบังคับ หนังสือบริคณห์สนธิ และการอนุมัติรายการพิเศษ เป็นต้น

การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นหลังวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น

  • บริษัทฯ ได้จัดทำรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายใน 14 วันหลังวันประชุมตามข้อกำหนดของตลท. และเผยแพร่บันทึกรายละเอียดการประชุมอย่างครบถ้วนเหมาะสม ประกอบด้วย การบันทึกรายงานการประชุม การออกเสียงและข้อซักถามของผู้ถือหุ้นในแต่ละวาระอย่างละเอียด พร้อมทั้งเผยแพร่รายงานการประชุมให้ผู้ถือหุ้นรับทราบบนเว็บไซต์บริษัทฯ (www.toyo-thai.com)
  • นำข้อเสนอแนะ และความคิดเห็นที่ได้รับจากผู้ถือหุ้นในการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมาพิจารณา และหาแนวทางการปรับปรุง เพื่อพัฒนาการจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง
2. การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน

บริษัทมีนโยบายเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท เป็นส่วนหนึ่งในระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับจริยธรรมทางธุรกิจ (Code of Business Ethics) และจรรยาบรรณ (Code of Conduct) โดยทั่วไปแล้วนโยบายดังกล่าวกำหนดให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทหลีกเลี่ยงมิให้เกิดการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวของบุคคลดังกล่าวกับผลประโยชน์ของบริษัท โดยการขัดกันนี้อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานกระทำการอย่างใดๆ หรือมีประโยชน์ส่วนตัวอันขัดหรือแย้งกับวัตถุประสงค์ และการปฏิบัติหน้าที่เพื่อบริษัท ตัวอย่างเช่น การที่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานถูกคาดหมายให้หลีกเลี่ยงการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในการทำธุรกิจกับลูกค้า ผู้ผลิต/จัดจำหน่ายสินค้า คู่แข่งหรือบุคคลอื่น นอกจากนี้ กรรมการ ผู้บริหารและพนักงานยังถูกคาดหมายให้ละเว้นจากการหาผลประโยชน์ให้ตนเอง โดยใช้โอกาสที่ได้มาจากทรัพย์สินของบริษัท หรือจากการดำรงตำแหน่งภายในบริษัท อีกทั้ง กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานยังถูกคาดหมายให้หลีกเลี่ยงการซื้อขายหลักทรัพย์โดยการอาศัยข้อมูลภายในซึ่งมิได้เป็นข้อมูลสาธารณะที่กรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานดังกล่าวได้มาโดยการอาศัยตำแหน่งหน้าที่ในบริษัทด้วย

3. บทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญต่อสิทธิตามกฎหมายของผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ เช่น พนักงานและผู้บริหารของบริษัท และบริษัทในเครือของบริษัท ตลอดจนผู้มีความสัมพันธ์เชิงพันธะสัญญากับบริษัท ซึ่งบริษัทจะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่บริษัทมีอยู่ตามข้อกำหนดในสัญญานั้นๆ

บริษัทจะจัดให้มีมาตรการในการแจ้งเบาะแสต่อคณะกรรมการ ในประเด็นที่เกี่ยวกับการทำผิดกฎหมาย ความไม่ถูกต้องของรายงานทางการเงิน ระบบควบคุมภายในที่บกพร่อง หรือการกระทำผิดจรรยาบรรณ

บริษัทตระหนักดีว่าสังคมหรือสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญกับการประกอบธุรกิจของบริษัท บริษัทจึง มีนโยบายที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

4. การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส

การรายงานข้อมูลค่าตอบแทนของกรรมการและผู้บริหารและการถือหลักทรัพย์ของกรรมการและผู้บริหาร

ข้อมูลค่าตอบแทนของกรรมการและผู้บริหารจะถูกเปิดเผยไว้ในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) รายงานประจำปี (แบบ 56-2) และในเว็บไซต์ของบริษัทฯ กรรมการและผู้บริหารมีหน้าที่รายงานการถือครองหลักทรัพย์ต่อ ก.ล.ต. ทุกครั้งที่มีการซื้อ ขาย หรือโอนหลักทรัพย์ ตามมาตรา 59 แห่งพ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

การรายงานข้อมูลสารสนเทศของบริษัทฯ

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการเปิดเผยสารสนเทศที่เป็นข้อมูลสำคัญของบริษัทฯ รวมถึงรายงานทางการเงิน ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลทางการเงิน และสารสนเทศเรื่องอื่นๆ ตามเกณฑ์ที่ ตลท. และ ก.ล.ต.กำหนดอย่างถูกต้อง ชัดเจน ครบถ้วน โปร่งใส ด้วยภาษาที่กระชับเข้าใจง่าย มีการเปิดเผยสารสนเทศที่สำคัญทั้งด้านบวกและด้านลบและผ่านการพิจารณากลั่นกรองตามขั้นตอนที่กำหนด เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับสารสนเทศอย่างเท่าเทียมกันตามที่กำหนดโดยกฎข้อบังคับของบริษัทฯ โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

  • ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ ตลท. และ ก.ล.ต.
  • แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) และรายงานประจำปี(แบบ 56-2)
  • ในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่ www.toyo-thai.com ซึ่งมีทั้งสองภาษา ได้แก่ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
  • การให้ข้อมูลต่อผู้ถือหุ้น นักวิเคราะห์ และนักลงทุน ที่มาเยี่ยมชมกิจการ และพบปะกับผู้บริหาร
  • การเดินทางเพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
  • การจัดกิจกรรมดูแลนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในตลาดทุน เช่น งาน SET in the City
  • การจัดส่งหนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นผ่านทางไปรษณีย์

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดทำรายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อรายงานทางการเงินแสดงควบคู่กับรายงานของผู้สอบบัญชีในรายงานประจำปี และมีมาตรการป้องกันการใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายใน โดยกำหนดให้พนักงานทุกระดับของบริษัทฯ ต้องไม่นำข้อมูลที่เป็นความลับไปใช้ เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือบุคคลอื่น และรักษาข้อมูลภายในและเอกสารที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก อันนำไปสู่การสวงหาผลประโยชน์ เพื่อตนเองหรือครอบครัว หรือพวกพ้องในทางมิชอบเช่น ข้อมูลที่มีผลกระทบต่อราคาหุ้นความลับทางการค้า หรือสูตรการประดิษฐ์คิดค้นต่างๆ เป็นต้น พนักงานที่เปิดเผยข้อมูลและข่าวสารที่สำคัญของบริษัทฯ ออกสู่บุคคลภายนอก โดยมิได้รับความเห็นชอบจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จะได้รับพิจารณามาตรการทางวินัยตามระเบียบของบริษัทฯ และอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย

การเปิดเผยข้อมูลบนเว็บไซต์

เพื่อให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้ที่สนใจอื่นๆ สามารถสืบค้นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว บริษัทฯ ได้นำเสนอข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ดังนี้

  • ข้อมูลของบริษัทฯ ประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ โครงสร้างธุรกิจ โครงสร้างองค์กร เป็นต้น
  • การกำกับดูแลกิจการ ประกอบด้วย ระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับจริยธรรมทางธุรกิจ (Code of Business Ethics) หลักการกำกับดูแลกิจการจรรยาบรรณ (Code of Conduct) คณะกรรมการบริษัทฯ คณะกรรมการชุดย่อย ผู้บริหารและฝ่ายจัดการ กฎบัตรของคณะกรรมการชุดย่อย เป็นต้น
  • นักลงทุนสัมพันธ์ ประกอบด้วย ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลราคาหลักทรัพย์ ข้อมูลผู้ถือหุ้น เป็นต้น
  • ความรับผิดชอบต่อสังคม ประกอบด้วย การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม กิจกรรม โครงการต่างๆ อาทิ โครงการเพื่อการศึกษา เพื่อสิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือสังคมตลอดจนการพัฒนา บุคลากร เป็นต้น
  • ข่าวบริษัทฯ ประกอบด้วย ข่าวสัมภาษณ์ผู้บริหาร บทความจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นต้น

นักลงทุนสัมพันธ์

บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญอย่างสูงต่อการบริหารความสัมพันธ์กับนักลงทุน ซึ่งจะมุ่งเน้นถึงการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่น ทุ่มเท ความถูกต้อง คุณภาพ ความเพียงพอเชื่อถือได้ และทันเวลา เพื่อให้นักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้เกี่ยวข้องได้รับสารสนเทศอย่างเพียงพอ ถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส และเท่าเทียมกัน

บริษัทฯ จัดให้มีหน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์เพื่อเป็นศูนย์กลางในการดำเนินกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ในเชิงรุกเพื่อให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติขององค์กรสากลชั้นนำ เพื่อส่งเสริมให้ช่องทางในการสื่อสารกับนักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ซักถามตลอดจนรับทราบข้อมูลสารสนเทศของบริษัทฯ ผ่านทางช่องทางเว็บไซต์บริษัท ช่องทางหลากหลายช่องทาง เช่น การจัด Road show กับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ทั้งในและต่างประเทศ รายงานผลการดำเนินงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ให้คณะกรรมการบริษัทฯรับทราบทุกสิ้นไตรมาส การทำสรุปผลการดำเนินงานเผยแพร่ในเว็บไซต์ของบริษัทฯ การจัดให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยและนักลงทุนเข้าเยี่ยมชมกิจการของบริษัทพบปะผู้บริหาร เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งผู้ที่สนใจหรือนักลงทุนสามารถสอบถามข้อมูลมายังฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัทฯ โดยติดต่อผ่าน 4 ช่องทาง ดังนี้

หน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์

นายกอบชัย ธนสุกาญจน์
ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์
  • เลขที่ 159/41-44 อาคารเสริมมิตรทาวเวอร์ ชั้น 27-30 , สุขุมวิท 21(อโศก) คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110
  • โทรศัพท์ 0-260-8505
  • โทรสาร 0-260-8525-6
  • อีเมล์ ir@toyo-thai.com
5. ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ

คณะกรรมการบริษัทประกอบด้วยบุคคลที่มีคุณสมบัติและประสบการณ์ที่จะช่วยพัฒนาและกำหนด ทิศทางธุรกิจ นโยบาย กลยุทธ์ของบริษัท โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน การบริหารความเสี่ยง และกระบวนการสอบทาน เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานเป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และการตัดสินใจที่สมเหตุสมผล

(ก) กรรมการ

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 คณะกรรมการของบริษัท มีจำนวน 9 ท่านประกอบด้วย

  • กรรมการที่เป็นผู้บริหาร จำนวน 2 ท่าน
  • กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร จำนวน 7 ท่าน
    (โดยรวมกรรมการซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการตรวจสอบด้วย จำนวน 3 ท่าน)

บริษัทได้จัดให้มีเลขานุการบริษัท โดยมีหน้าที่ช่วยเหลือคณะกรรมการในการจัดการประชุมคณะกรรมการ การจัดส่งหนังสือนัดประชุมคณะกรรมการ การจดบันทึกรายงานการประชุม และหน้าที่อื่นๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ตามปกติของเลขานุการบริษัท รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลส่วนได้เสียของกรรมการและผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องของบุคคลดังกล่าว

(ข) คณะอนุกรรมการ

คณะกรรมการบริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการการตรวจสอบเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัท คณะกรรมการตรวจสอบประกอบด้วยกรรมการอิสระ ซึ่งมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

(ค) บทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ

คณะกรรมการของบริษัทมีหน้าที่และความรับผิดตามที่กำหนดในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยทำหน้าที่พิจารณาและให้ความเห็นชอบในเรื่องที่สำคัญเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมทั้งให้ความสำคัญในการกำกับดูแลกิจการที่ดีและเชื่อมั่นในหลักการสำคัญ ดังนี้

  • การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสามารถเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่ธุรกิจในระยะยาว และการบริหารงานด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง และมิให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of Interest)
  • การดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส โดยมีการเปิดเผยที่เพียงพอต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง
  • การดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงระบบการควบคุม และบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
  • กำหนดแนวทางปฏิบัติ ตามมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับกรรมการ และพนักงานได้ถือปฏิบัติ

บริษัทจะจัดทำรายงานประจำปีเพื่อรายงานกิจกรรมและผลประกอบการทางการเงินของบริษัท เพื่อเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาและอนุมัติ

บริษัทให้ความสำคัญกับระบบการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพทั้งในระดับบริหารและระดับปฏิบัติงาน ดังนั้น บริษัทจึงได้กำหนดการควบคุมภายในและขั้นตอนที่ครอบคลุม และรวบรวมไว้ในคู่มือการปฏิบัติงานของบริษัท (Company Operation Document)

บริษัทจะจัดให้คณะกรรมการตรวจสอบ ตรวจสอบและให้ความเห็นเกี่ยวกับธุรกรรมที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้มีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการตรวจสอบเช่น รายการระหว่างกัน รายการที่เกี่ยวโยง รายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เป็นต้น และความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบจะถูกนำเสนอต่อคณะกรรมการหรือผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี เพื่อให้มั่นใจว่าการเข้าทำรายการตามที่เสนอนั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท และบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทำรายการดังกล่าวในรายงานประจำปีและแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) รวมทั้งในหมายเหตุประกอบงบการเงินของบริษัท

(ง) การประชุมคณะกรรมการ

การประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จะมีการกำหนดขึ้นเป็นการล่วงหน้าในแต่ละปี เพื่อให้กรรมการสามารถจัดเวลาและเข้าร่วมประชุมได้ โดยบริษัทฯจะจัดส่งเอกสารประกอบการประชุมให้กรรมการพิจารณาล่วงหน้าเพื่อที่จะมีเวลาเพียงพอในการศึกษาพิจารณาและตัดสินใจอย่างถูกต้องในเรื่องต่างๆ ข้อบังคับของบริษัทฯ กำหนดให้คณะกรรมการจะต้องประชุมกันอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้ง ทั้งนี้กรรมการบริษัทฯ ต้องมาประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งจึงจะเป็นองค์ประชุม และอาจมีการประชุมพิเศษเพิ่มเติมตามความจำเป็น โดยในปี 2556 มีการจัดประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ทั้งหมด 6 ครั้ง และการประชุมกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร โดยไม่มีฝ่ายจัดการ 1 ครั้ง ทั้งนี้บริษัทฯได้จัดส่งหนังสือเชิญประชุมให้แก่กรรมการเพื่อพิจารณาก่อนการประชุมเป็นการล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุม เพื่อให้กรรมการมีเวลาที่จะศึกษาพิจารณาและตัดสินใจอย่างถูกต้องในเรื่องต่างๆ อย่างพอเพียง และสามารถจัดเวลาการเข้าร่วมประชุมได้ ในการประชุมทุกคราวจะมีการกำหนดวาระการประชุมที่ชัดเจน โดยในการประชุมคณะกรรมการ กรรมการทุกคนสามารถอภิปรายและแสดงความคิดเห็นได้อย่างเปิดเผย และมีการจดบันทึกการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อใช้อ้างอิงรายละเอียดการเข้าร่วมประชุมของคณะกรรมการบริษัทฯ ในปี 2556 แสดงไว้ในหัวข้อการประชุมคณะกรรมการบริษัท

(จ) กำหนดค่าตอบแทน

บริษัทฯ มีนโยบายกำหนดค่าตอบแทนของคณะกรรมการและผู้บริหาร ให้อยู่ในระดับที่สามารถจูงใจและอยู่ในระดับที่เทียบเคียงกับบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยการพิจารณาจะเชื่อมโยงกับผลงานและความรับผิดชอบของคณะกรรมการและผู้บริหาร รวมทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทฯและผลประโยชน์ที่สร้างให้กับผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ผู้ที่เป็นประธานอาจได้รับค่าตอบแทนเพิ่มจากที่กรรมการได้รับ โดยทุกปีคณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทนจะเป็นผู้กำหนดค่าตอบแทนดังกล่าว นำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อขอความเห็นชอบก่อนนำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติต่อไป สำหรับรายละเอียดการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่คณะกรรมการและผู้บริหาร ในปี 2556 ตามที่ได้กล่าวถึงแล้วในหมวดผลประโยชน์ตอบแทนของคณะกรรมการและผู้บริหาร

(ฉ) การพัฒนากรรมการและผู้บริหาร

โดยบริษัทฯ มีนโยบายสนับสนุนให้กรรมการบริษัทฯ เข้ารับการอบรมหลักสูตรจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors Association (IOD)) และเพื่อเป็นการพัฒนา สนับสนุนและส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทฯ